พาชาวเที่ยวท้องถิ่นไขข้อสงสัยเรื่องวัคซีนโควิด-19 มีกี่ชนิดปัจจุบัน??  คำตอบคือมีวัคซีนโควิดที่ใช้กันทั่วโลก 4 ชนิด  วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม mRNA , วัคซีนที่นำสารพันธุกรรมของไวรัส ตัดต่อเข้ากับเชื้อไวรัส เรียกว่าอะดิโนไวรัส,วัคซีนชนิดที่ทำจาก โปรตีนของเชื้อไวรัส หรือเรียกว่าโปรตีนซับยูนิตวัคซีน และวัคซีนที่ทำจากเชื้อตาย รายละเอียดแต่ละชนิดมีอะไรบ้าง

ปัจจุบันวัคซีนโควิด-19 มีกี่ชนิด

ปัจจุบันวัคซีนโควิดที่ใช้กันทั่วโลกมีอยู่ 4 ชนิด

เที่ยวท้องถิ่น life a localชนิดแรกคือ วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม mRNA อันนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่พึ่งมีใช้กันสำหรับโรคโควิด วัคซีนที่เรารู้จักกันมีอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ ไฟเซอร์ และ โมเดอนา

วัคซีนชนิดที่สอง คือวัคซีนที่นำสารพันธุกรรมของไวรัส ตัดต่อเข้ากับเชื้อไวรัส เรียกว่าอะดิโนไวรัส เพื่อที่จะพาสารพันธุกรรมนี้เข้าสู่เซลล์ อันนี้ก็เป็นเทคโนโลยีใหม่เช่นเดียวกัน วัคซีนที่เรารู้จักกัน เช่น บริษัทแอสตร้าเซเนก้า บริษัทจอนสันแอนด์จอนสัน และของสปุกนิกส์ ของประเทศรัสเซีย 

ชนิดที่สาม คือวัคซีนชนิดที่ทำจากโปรตีนของเชื้อไวรัส หรือเรียกว่าโปรตีนซับยูนิตวัคซีน อย่างเช่น วัคซีนของ บริษัท โนวาแวค 

ชนิดที่สี่ คือวัคซีนที่ทำจากเชื้อตาย หรือภาษาอังกฤษเราเรียกว่า Inactivated Vaccine อันนี้อย่างเช่น ยี่ห้อ ของบริษัทซิโนแวค

เที่ยวท้องถิ่น life a local

วัคซีนโควิด-19 แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร

วัคซีนแต่ละชนิดมีจุดประสงค์หลักเหมือนๆกัน ก็คือกระตุ้นให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ วัคซีนจะทำหน้าที่เสมือน เป็นเทรนเนอร์ เป็นคู่ซ้อม ทำให้ร่างกายรู้จัก กับส่วนใดส่วนหนึ่งของเชื้อไวรัสเพื่อเตรียมพร้อม หากเจอสถานการณ์จริง จะสามารถต่อสู้ได้อย่างทันท่วงที แต่ว่าความแตกต่างของวัคซีนแต่ละชนิดก็คือ เทคนิคและกลไก ที่ใช้การกระตุ้นร่างกายนั้นต่างกัน 

ชนิดแรกวัคซีน mRNA เป็นเทคนิคใหม่ที่เลียนแบบสารพันธุกรรม ส่วนเฉพาะของไวรัส เมื่อฉีดเข้าร่างกาย mRNA จะเข้าสู่เซลล์ กระตุ้นให้ร่างกาย สร้างโปรตีนที่คล้ายคลึงกับส่วนหนามของไวรัส ซึ่งส่วนหนามของไวรัสส่วนนี้จะใช้ ไวรัสจะใช้จับเข้ากับเซลล์ทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเราฉีดวัคซีนเข้าไป mRNA ไปกระตุ้น ให้ร่างกายสร้างโปรตีนส่วนหนาม ทำให้เรารู้จักกับเชื้อไวรัสก่อน เมื่อเจอสถานการณ์จริงร่างกายจะสามารถ สร้างภูมิคุ้มกันออกมาเพื่อรับมือกับไวรัส ได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อจำกัดของวัคซีนชนิดนี้ คือ สารพันธุกรรม mRNA นี้ เป็นสารพันธุกรรมที่เปราะบางมาก การผลิตจะต้องสร้าง ใช้นาโนเทคโนโลยีขึ้นมา เพื่อให้มันคงตัวอยู่ได้ และจะต้องเก็บรักษา ที่อุณหภูมิต่ำมาก คือ -20 – 70 องศา 

ชนิดที่สอง ไวรัลเว็กเตอร์  วัคซีนนี้ใช้เทคโนโลยีสร้างสารพันธุกรรม DNA แล้วนำไปตัดต่อเข้ากับเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่ใช้กันส่วนใหญ่ก็คือใช้ อะดิโนไวรัส เราจะนำ DNA นี้ตัดต่อเข้าไปกับตัวไวรัส แล้วก็ทำเป็นวัคซีน ฉีดเข้าไปในร่างกายของเรา เพื่อที่กระตุ้นให้ร่างกายเปลี่ยนจาก DNA เป็น RNA ชั้นที่หนึ่ง หลังจากนั้นเปลี่ยนจาก RNA เป็นโปรตีน ที่ตรงกับชนิดหนามของไวรัส และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อหนามของเชื้อไวรัสอีกทีหนึ่ง กลไกนี้คล้ายกับ วัคซีน mRNA ที่กล่าวไป แต่ว่าการใช้ DNA ตัดต่อกับไวรัสโดย แล้วนำเข้าไปฉีดให้ร่างกาย จะเลียนแบบการติดเชื้อโดยตรงโดยธรรมชาติ สารพันธุกรรมนี้สามารถคงตัวอยู่ได้ดีกว่าในอุณหภูมิตู้เย็นธรรมดา

ชนิดที่สาม เป็นวัคซีนที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีนของไวรัส หรือที่เรียกกว่า Subunit Vaccine วัคซีนชนิดนี้ใช้เทคโนโลยีในการเพาะเลี้ยงเชื้อไวรัส แล้วก็สกัดเอาส่วนโปรตีน ที่เป็นส่วนหนามมาทำเป็นวัคซีน แล้วก็ฉีดให้ร่างกายเรา ให้ร่างกายเรารู้จักกับหนามของไวรัสโดยตรง เทคโนโลยีนี้ เป็นเทคโนโลยีที่ ใช้กันมานานและก็เป็นเทคโนโลยีที่ ปัจจุบันก็มีการใช้เทคโนโลยีนี้ สำหรับวัคซีนชนิดต่างๆ อย่างเช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือ ไวรัสตับอักเสบ บี เป็นต้น ตัวที่มีใช้ในตอนนี้ทั่วโลกก็คือ วัคซีนของบริษัทโนวาแวค

ชนิดที่สี่  คือวัคซีนเชื้อตาย หรือเรียกว่า Inactivated Vaccine วัคซีนชนิดนี้ใช้เทคโนโลยีในการเพาะเลี้ยงเชื้อไวรัส แล้วก็มาทำให้เชื้อไวรัสนั้นหยุดการเจริญเติบโต หรือเรียกว่าทำให้ตาย นั่นเอง แล้วก็นำเอาเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว มาทำเป็นวัคซีนแล้วก็ฉีดเข้าสู่ร่างกายเรา ทำให้เรารู้จักกับเชื้อไวรัสทั้งตัว กระตุ้นร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อเชื้อไวรัสชนิดนั้นๆ ค่ะ เทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันมาเนิ่นนาน เช่น ในการทำวัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ หรือว่าโปลิโอวัคซีน เป็นต้น รวมถึงปัจจุบันก็ใช้เทคโนโลยีนี้มาทำ วัคซีนโควิด-19 อย่างเช่น วัคซีนของ บริษัท ซิโนแวค เป็นต้น

เที่ยวท้องถิ่น life a local

ประสิทธิภาพของ วัคซีนโควิด -19 แต่ละชนิด

สำหรับประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิดนะคะ ปัจจุบัน ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบ วัคซีนแต่ละชนิดแบบตัวต่อตัว หรือแบบเทียบกันในสถานการณ์เดียวกัน ในกลุ่มประชากรเดียวกัน จึงไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า วัคซีนตัวไหนดีกว่า หรือ ด้อยกว่ากันอย่างชัดเจน ประสิทธิภาพตัวเลขประสิทธิภาพที่เราเห็นกันอยู่ หรือว่าได้ยินกันทั่วไป อย่างเช่นประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคที่สามารถป้องกันโรคได้ประมาณ  50 – 70 %  หรือว่าประสิทธิภาพของวัคซีน ของบริษัทแอสตร้าเซเนก้าที่สามารถป้องกันได้  70-80 %  ตัวเลขต่างๆ เหล่านี้มาจากการทดลองเฉพาะวัคซีนนั้นๆ ในกลุ่มประชากรควบคุมโดยเทียบกับกลุ่มที่ฉีดวัคซีนกับกลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ของวัคซีนชนิดนั้นๆอย่างเดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่า วัคซีนซิโนแวค หรือว่า วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ที่มีตัวเลขไม่เท่ากันนั้น ตัวไหนดีกว่ากัน หรือว่า ด้อยกว่ากันอย่างชัดเจนจนกว่าจะมีการทำการศึกษาที่เปรียบเทียบวัคซีน 2 ชนิด ในสถานการณ์เดียวกัน ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน แล้วก็ในกลุ่มประชากรเดียวกัน

เที่ยวท้องถิ่น life a local

ขอขอบคุณข้อมูลจาก แพทย์หญิงร่มเย็น ศักดิ์ทองจีน แพทย์ชำนาญการด้านโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลสินแพทย์ 

เที่ยวท้องถิ่น